ข้อสอบโทอิค 4 ทักษะ (ฟัง, พูด, อ่าน, เขียน) สามารถแบ่งออกเป็นข้อสอบประเมินการฟังและการอ่าน กับข้อสอบประเมินการเขียนและการพูดค่ะ วันนี้เราจะมาเจาะลึกว่าในข้อสอบพาร์ทการฟังมีอะไรบ้าง พร้อมกับบอกวิธีเรียนเพื่อพิชิตโทอิคพาร์ทการฟังค่ะ
เข้าใจแนวข้อสอบโทอิคพาร์ทการฟัง
การเข้าใจเนื้อหาโจทย์พาร์ทการฟังและการอ่านเป็นสิ่งสำคัญค่ะ ในส่วนของพาร์ทการฟังอาจจะเหมือนว่าง่าย แต่ความจริงแล้วเรียกได้ว่าเป็นพาร์ทที่ปราบเซียนที่สุดเลยนะคะ ในข้อสอบพาร์ทการอ่านถ้าหากเราไม่เข้าใจเนื้อหา เรายังสามารถอ่านซ้ำๆเท่าไหร่ก็ได้ แต่พาร์ทการฟังทำอย่างนั้นไม่ได้ค่ะ เพราะเราจะได้ฟังแค่ครั้งเดียวเท่านั้น เพราะฉะนั้นเราต้องทำความคุ้นเคยลักษณะข้อสอบให้ดี จึงจะสามารถพิชิตคะแนนสูงในพาร์ทการฟังได้ค่ะ
ข้อสอบพาร์ทการฟังใช้เวลา 45 นาทีค่ะ รวมกับพาร์ทการอ่านจะเป็น 2 ชั่วโมง เทปเสียงข้อสอบการฟังจะเปิดให้นักเรียนทุกคนที่สอบฟังพร้อมกันทั้งหมด เทปจะเล่นแค่ครั้งเดียว ฉะนั้นเราจะต้องตั้งใจฟังให้มากที่สุด ห้ามหลุดเด็ดขาด เราต้องหาวิธีที่ฟังสบายที่สุด และพยายามโฟกัสแม้ว่าจะมีเสียงรบกวนนะคะ
ข้อสอบโทอิคทั้งพาร์ทการฟังและการอ่านเป็นข้อสอบแบบช้อยส์ให้เลือกตอบ เพียงฝนคำตอบที่ถูกลงในกระดาษคำตอบเท่านั้นค่ะ ต่อไปเรามาดูว่าพาร์ทการฟังประกอบไปด้วยอะไรบ้าง และมีวิธีการเรียนอย่างไรกันค่ะ
พาร์ท1: ข้อสอบที่เป็นรูปภาพ (Photographs) 6ข้อ
ข้อสอบพาร์ทการฟังและการอ่านจะแบ่งออกเป็น 7 พาร์ทย่อย ซึ่งข้อสอบการฟังจะมี 4 พาร์ท ในพาร์ทแรกจะเป็นข้อสอบที่มีรูปภาพค่ะ ทั้งหมด 10 ข้อ โดยเราจะได้ยินช้อยส์ 4 ช้อยส์ แล้วเลือกช้อยส์ที่ตรงกับรูปภาพที่สุด
ลองมายกตัวอย่างว่า ในรูปมีคนสองคนนั่งบนโต๊ะในออฟฟิศ แล้วถ้าช้อยส์มีตามนี้ ทุกคนจะเลือกข้อไหนคะ?
(A) They are cleaning the room.
(B) They are listening to music.
(C) They are sitting at a table.
(D) They are leaning on the door.
ข้อ (C) เหมาะสมที่สุดค่ะ
วิธีเรียนโทอิคการฟังพาร์ทที่ 1 ให้ได้ผลที่สุดคือการฝึกบรรยายรูปภาพค่ะ เมื่อเราเห็นรูปในหนังสือหรือทางออนไลน์ ให้ลองฝึกบรรยายรูปภาพว่าในรูปมีอะไร ถ้าเจอรูปถนนในเมือง เราอาจบรรยายว่า ‘There are cars (มีรถ)’ หรือ ‘it is a city street (มันคือถนนของเมือง)’ ทำแบบนี้จะช่วยเราเข้าใจการบรรยายรูปภาพของแต่ละช้อยส์ แล้วเราจะเลือกคำตอบได้แม่นขึ้นค่ะ
พาร์ท2: ข้อสอบที่เป็นการถามตอบ (Question-Response) 25ข้อ
ข้อสอบโทอิคการฟังพาร์ทที่ 2 เป็นการเลือกคำตอบให้เหมาะกับคำถาม ทั้งหมด 25 ข้อ โดยเราจะได้ยินทั้งคำถามและคำตอบจากเทป แล้วต้องฟังว่าช้อยส์ข้อไหนที่เหมาะจะเป็นคำตอบ ในกระดาษคำถามจะไม่มีโจทย์และช้อยส์เลย แล้วจะได้ยินแค่ครั้งเดียวต่อหนึ่งข้อ เพราะฉะนั้นเราต้องตั้งใจฟังเทปให้ดีนะคะ หลังจากพูดคำถามเสร็จ จะมีเว้นเวลาประมาณ 5 วินาทีก่อนเริ่มพูดช้อยส์ค่ะ
ตัวอย่าง)
Why did John leave work early today?
(A) The presentation was great yesterday.
(B) Because he has a dentist appointment.
(C) The lunch at work was really good.
จากตัวอย่างข้อสอบด้านบน คำตอบที่เหมาะสมที่สุดคือข้อ (B) อีกสองช้อยส์ความหมายไม่สอดคล้องกับคำถาม
เพื่อที่จะพิชิตข้อสอบพาร์ทการฟังพาร์ท2 เราจะต้องเข้าใจโครงสร้างประโยคของคำถามเป็นอย่างดี ตัวอย่างเช่น ประโยคคำถามที่ขึ้นต้นด้วย why คำตอบก็ต้องเป็นเหตุผล จากตัวอย่างข้อสอบด้านบนจะเห็นว่า มีเฉพาะช้อยส์ข้อ (B) ที่บอกเหตุผล อีกสองช้อยส์ไม่เกี่ยวกับคำถามเลย หากเจอข้อสอบโทอิคการฟังพาร์ท 2 ที่คำถามขึ้นต้นด้วย Wh-question (who, when, where, what, why, how) ให้เราตั้งใจฟังคำด้านหน้าสุดให้ดี แล้วจะเลือกคำตอบได้ถูกต้องค่ะ
พาร์ท3: ข้อสอบที่เป็นบทสนทนา (Conversations) 39ข้อ
ในพาร์ทที่3 เราจะได้ยินบทสนทนาระหว่างคนสองคนค่ะ หนึ่งบทสนทนาจะมี 3 ข้อ รวมทั้งหมด 39 ข้อ ข้อสอบโทอิคการฟังพาร์ท3 จะมี 4 ช้อยส์ ให้เลือกข้อที่คำตอบเหมาะสมที่สุด เราจะได้ยินบทสนทนาจากแค่เทปเสียง แต่ว่าคำถามและช้อยส์จะมีในข้อสอบให้อ่านได้ค่ะ
ตัวอย่าง)
บทสนทนาเกิดขึ้นที่ร้านค้า ระหว่างเจ้าของร้านกับลูกค้า โดยลูกค้าต้องการซื้อหลอดไฟ หลังฟังเทปเสียงจบ คำตอบของข้อต่อไปนี้คือ?
1. Where are the two people in this conversation?
(A) In a store
(B) In a hospital
(C) At home
(D) In the park
คำตอบของข้อนี้คือ (A) ค่ะ
2. What does the customer want?
(A) To buy a car
(B) To check out the store
(C) To schedule a meeting
(D) To buy a lamp
คำตอบของข้อนี้คือ (D) ค่ะ
เคล็ดลับการทำข้อสอบโทอิคการฟังพาร์ท3 คือต้องอ่านโจทย์ก่อนฟังบทสนทนาค่ะ เนื่องจากในกระดาษข้อสอบจะมีทั้งคำถามและช้อยส์ เราจึงสามารถอ่านคำถามก่อนได้ พอได้อ่านคำถามล่วงหน้าไว้แล้ว เราจะรู้ว่าต้องหาคำตอบแนวไหนในบทสนทนา พอฟังเจอคำตอบ ก็สามารถตอบได้ทันที ยิ่งพอฟังบทสนทนาจบ แล้วมาตรวจสอบว่าตอบถูกต้องหรือไหมอีกครั้ง ก็จะยิ่งดีค่ะ
พาร์ท4: ข้อสอบที่เป็นบทพูดสั้นๆ (Short talks) 30ข้อ
ข้อสอบโทอิคการฟังพาร์ท4 จะคล้ายๆกับพาร์ท3 เลยค่ะ ต่างกันที่ว่าพาร์ท3 จะเป็นบทสนทนา แต่พาร์ท4 จะเป็นบทพูดที่มีผู้พูดเพียงคนเดียว หนึ่งบทพูดจะประกอบไปด้วย 3 ข้อ มี 4 ช้อยส์ให้เลือกเหมือนพาร์ท3 เราจะได้ยินบทพูดจากแค่เทปเสียง แต่ว่าคำถามและช้อยส์จะมีในข้อสอบให้อ่านได้ค่ะ
ตัวอย่าง)
ผู้จัดการกำลังพูดเรื่องยอดขายที่เพิ่มขึ้นของเดือนที่แล้วให้พนักงานฟัง คำตอบของข้อต่อไปนี้คือ? เพิ่มเติมคือ เพื่อที่จะจัดการบัญชีของบริษัท จึงเป็นสถานการณ์ที่ต้องจ้างพนักงานเพิ่ม
1. What is the meeting about?
(A) Sales figures
(B) Buying new supplies
(C) There are not enough computers
(D) There are new available office spaces
คำตอบของข้อนี้คือ (A) ค่ะ
2. What needs to happen?
(A) They need to buy more desks
(B) They need to recruit new staff
(C) They need to do research
(D) They need to organise a competition
คำตอบของข้อนี้คือ (B) ค่ะ
เคล็ดลับการทำข้อสอบของพาร์ท4 ก็จะคล้ายกับของพาร์ท3เลยค่ะ นั่นก็คือให้อ่านคำถามก่อนเริ่มฟังเทปเสียง พออ่านคำถามแล้ว ก็ต้องวิเคราะห์ว่าข้อมูลที่จะเป็นคำตอบ ที่เราต้องตั้งใจฟังไม่ให้พลาดคืออะไร ทุกคำถามจะมีอยู่ในบทพูดหมดค่ะ แม้ว่าในบทพูดอาจไม่ได้ตรงช้อยส์เป๊ะๆ แต่เราก็สามารถหาคำตอบได้โดยดูบริบทค่ะ ดังนั้นเราต้องทำคุ้นเคยกับการถอดความหรือ paraphrasing ที่เจอในข้อสอบโทอิคพาร์ทการฟังบ่อยๆนะคะ
การฝึกฝนเท่านั้นที่จะทำให้ได้คะแนนตามเป้า!
การสอบโทอิคต้องอาศัยการเรียนและฝึกฝนค่ะ ลองเรียนรู้เนื้อหาที่อธิบายวันนี้ไป แล้วลองฝึกทำข้อสอบเยอะๆนะคะ ฝึกดูภาพแล้วบรรยาย และดูรูปแบบคำถามและคำตอบของประโยคที่ขึ้นต้นด้วย Wh นอกจากนี้ แนะนำให้ลองทำข้อสอบจริงหรือข้อสอบจำลองเยอะๆด้วยนะคะ นอกจากฝึกฟังเทปเสียงของข้อสอบโทอิคแล้ว การฟังข่าวภาษาอังกฤษก็สามารถช่วยพัฒนาทักษะการฟังภาษาอังกฤษได้มากเลยค่ะ Riiid TUTOR ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนให้ได้ตามเป้าคะแนนที่ตั้งไว้นะคะ!
Riiid TUTOR เป็นโซลูชั่นที่ใช้เทคโนโลยี AI มาเพิ่มคะแนนโทอิคของทุกคนอย่างได้ผลจริง
ข้อสอบโทอิคอัพเดทล่าสุด วิดีโอเรียนฟรี รวมไปถึงวิธีการเรียนโทอิคที่เข้ากับคุณ ทั้งหมดนี้รวมครบในแอพ Riiid TUTOR เท่านั้น ลองเข้าไปดูได้เลย!