สวัสดีค่ะ Santa นะคะ
ข้อสอบโทอิคที่เป็นข้อสอบวัดระดับทักษะการสื่อสารนานาชาติแบ่งออกเป็น 7 พาร์ท โดยพาร์ท 1 ถึงพาร์ท 4 เป็นการวัดความสามารถการฟังหรือที่เรียกว่า LC และพาร์ท 5 ถึงพาร์ท 7 เป็นการวัดทักษะการอ่านค่ะ วันนี้เราจะมาเจาะลึกข้อสอบพาร์ท 2 กันนะคะ
ลักษณะของข้อสอบโทอิคพาร์ท 2 เป็นการถาม-ตอบ ซึ่งเราต้องเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดจากช้อยส์ 3 ข้อ เป็นการวัดทักษะการสื่อสารในชีวิตประจำวันและสภาพแวดล้อม มีทั้งหมด 25 ข้อ โดยในกระดาษข้อสอบจะไม่มีทั้งคำถามและช้อยส์ให้ดูเลยค่ะ ดังนั้นการตั้งใจฟังคำถามให้ดีจึงเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ให้ใช้วิธีฟังช้อยส์ แล้วช้อยส์ไหนที่ผิดก็ตัดช้อยส์นั้นไปเลย โทอิคพาร์ท 2 สามารถแบ่งออกเป็น ประโยคคำถามที่มีคำแสดงคำถาม และประโยคคำถามที่ไม่มีคำแสดงคำถาม ถ้างั้นเราไปเริ่มดูกันเลยไหมคะ?
โฟกัสคำขึ้นต้นของคำถาม – ประโยคคำถามที่มีคำแสดงคำถาม
ประโยคคำถามที่มีคำแสดงคำถามจะมี who, when, where, what, why, how ทั้งหมด 5 คำนี้ขึ้นต้นค่ะ
คำแสดงคำถาม Who “ใคร?”
Who made the hiring decision? ใครเป็นคนตัดสินใจการจ้าง?
คำแสดงคำถาม When “เมื่อไหร่?”
When will the train for Boston depart? รถไฟที่จะไปบอสตันจะออกเดินทางเมื่อไหร่?
คำแสดงคำถาม Where “ที่ไหน?”
Where did you get those samples? คุณได้ตัวอย่างพวกนั้นจากที่ไหน?
คำแสดงคำถาม What “ที่ไหน?”
What time should we get there? พวกเราจะไปถึงที่นั่นกี่โมง?
คำแสดงคำถาม Why “ทำไม?”
Why do you come to work so early? ทำไมคุณมาทำงานเช้าขนาดนี้?
คำแสดงคำถาม How “อย่างไร?”
How often do you check your mailbox? คุณเช็คกล่องไปรษณีย์บ่อยแค่ไหน?
สำหรับประโยคคำถามที่มีคำแสดงคำถามในข้อสอบโทอิคพาร์ท 2 เพียงแค่เราฟังคำขึ้นต้นได้ถูกต้อง ก็จะสามารถพอเดาคำตอบได้ค่ะ
ประโยคคำถามรูปแบบอื่นที่ไม่มีคำแสดงคำถาม
ประโยคคำถามรูปแบบอื่นที่ไม่มีคำแสดงคำถามแบ่งออกได้หลายแบบ ซึ่งเราต้องรู้ว่าแต่ละแบบมีอะไรบ้าง แล้วจะช่วยทำข้อสอบพาร์ท 2 นี้ได้ค่ะ
ก่อนอื่นประโยคคำถามทั่วไปจะขึ้นต้นด้วย Verb to be, กริยาช่วย, do / have / will / should เป็นต้น โดยจะสามารถตอบด้วย Yes / No ได้นะคะ ลองมาดูตัวอย่างประโยคคำถามทั่วไป “Did you attend the meeting yesterday? (คุณได้เข้าร่วมประชุมเมื่อวานนี้ไหม?)” ซึ่งถ้าเข้าร่วมประชุมก็ตอบว่า “Yes.” แต่ถ้าไม่ได้เข้าร่วม ก็ตอบว่า “No.” ได้ค่ะ
ประโยคคำถาม Question Tags เช่น “It must be your first company picnic, right? (ที่เป็นการปิกนิกบริษัทครั้งแรกของคุณใช่ไหม?)” ด้านหลังประโยคคำถามประเภทนี้จะมี right / don’t you อยู่ด้านหลัง และสามารถตอบว่า Yes / No ได้เหมือนประโยคคำถามทั่วไป
ประโยคคำถามรูปปฏิเสธ เป็นประโยคคำถามที่ขึ้นต้นด้วย Isn’t / doesn’t / won’t เป็นต้น ยกตัวอย่างประโยค “Haven’t you made a reservation yet? (คุณยังไม่ได้จองหรอ?)” ถ้าตอบว่าจองแล้ว ก็ตอบว่า “Yes, I did.” แต่ถ้ายังไม่ได้จอง ก็ตอบว่า “No, I didn’t.” ได้เลย
สำหรับประโยคเสนอแนะ/ขอร้องเช่น “Could you review the draft document for me today? (วันนี้คุณสามารถช่วยตรวจดูเอกสารฉบับร่างนี้ให้ฉันได้ไหม?)” จะเห็นได้ว่าประโยคคำถามแบบนี้จะขึ้นต้นด้วย Why don’t ~? / Would you ~? / Could you ~? ซึ่งในประโยคคำถามที่ต้องการให้เลือก จะมีคำว่า or ให้เลือกระหว่าง A กับ B ลองมาดูประโยคนี้กันค่ะ “Which would you prefer, tea or coffee? (คุณชอบชาหรือกาแฟมากกว่ากัน?)” ซึ่งคำตอบอาจตอบว่า tea หรือ coffee ได้เลย หรืออาจตอบว่า “Water would be enough for me. (น้ำเปล่าก็เพียงพอสำหรับฉัน)” เป็นการตอบว่าไม่เอาทั้ง A และ B แล้วพูดถึงตัวเลือกที่สามก็ได้เช่นกัน
โครงสร้างประโยคคำถามที่เราเห็นมาเป็น <คำแสดงคำถาม + กริยา + ประธาน> ใช่ไหมคะ แต่บางกรณีโครงสร้างของประโยคอาจเป็น <คำแสดงคำถาม + ประธาน + กริยา> ก็ได้นะคะ ซึ่งเป็นประโยคคำถามทางอ้อมนั่นเองค่ะ อย่างประโยค “Do you know where I can get a map? (คุณรู้ไหมว่าฉันสามารถเอาแผนที่ได้ที่ไหน?)” ประโยคนี้ขึ้นต้นด้วย “Do you know ~?” ก็จริง แต่ใจความของคำถามจริงๆคือ “where I can get a map?” ซึ่งโครงสร้างคือ < where(คำแสดงคำถาม) + I(ประธาน) + can get(กริยา)> ค่ะ
ส่วนประโยคบอกเล่าจะมีโครงสร้างเป็น <ประธาน + กริยา> ถ้าเราเจอโจทย์ที่เป็นประโยคบอกเล่าในข้อสอบโทอิคพาร์ท 2 คำตอบจะสามารถตอบได้หลากหลายรูปแบบขึ้นอยู่กับว่าจุดประสงค์ของประโยคคือการบอกข้อมูล เสนอแนะ ขอร้อง แสดงความขอบคุณ เป็นต้น
วิธีหาคำตอบอย่างรวดเร็ว สำหรับข้อสอบโทอิคพาร์ท 2
ข้อสอบโทอิคพาร์ท 2 หนึ่งข้อจะใช้เวลาประมาณ 20 วินาที ดังนั้นต้องการสมาธิสูงมากนะคะ แนะนำว่าพอฝึกทำข้อสอบแล้ว ให้ฝึกอ่านคำถามและคำตอบที่ถูกต้องเป็นคู่ๆนะคะ จะทำให้เราคุ้นชินกับรูปแบบบทสนทนาที่ออกบ่อยๆได้มากขึ้นค่ะ
ประเภทของคำตอบในข้อสอบโทอิคพาร์ท 2 แบ่งได้เป็น 3 ประเภทค่ะ ‘คำตอบตรงๆ’ เป็นการตอบที่ตรงคำถาม, ‘คำตอบทางอ้อม’ เป็นการตอบอย่างอื่น แต่สามารถเข้าใจว่าเป็นคำตอบได้, และ ‘คำตอบแบบที่ 3’ เป็นการตอบแบบถามย้อนกลับ บอกว่าไม่รู้ หรือว่าพูดข้อมูลที่ไม่เกี่ยวข้องเลย
ถ้าเราได้ยินโจทย์อย่างชัดเจน เราสามารถคาดเดาได้ว่าคำตอบตรงๆจะเป็นรูปแบบไหนได้ แต่สัดส่วนของคำตอบทางอ้อมและคำตอบแบบที่ 3 มากกว่า ดังนั้นสำหรับใครที่รู้สึกว่าคำตอบแบบที่ 3 ยาก แนะนำให้จำรูปแบบคำตอบที่ถูกกับคำตอบที่ผิดตามนี้เลยนะคะ
1) คำตอบที่ผิด โดยใช้การออกเสียงที่คล้ายกันมาหลอก
Q: How was the interview for the internship? (สัมภาษณ์ฝึกงานเป็นอย่างไรบ้างคะ?)
A: It received mostly positive reviews. (ส่วนใหญ่ได้รับการรีวิวเชิงบวก)
2) คำตอบที่ผิด โดยใช้คำศัพท์ซ้ำๆมาหลอก
Q: Why did you leave the office so early yesterday? (ทำไมเมื่อวานคุณออกจากออฟฟิศไวจัง?)
A: I’ll leave on Friday. (ผมจะออกวันศุกร์)
3) คำตอบที่ผิด โดยใช้รากศัพท์เดียวกัน
Q: What should we take with us to the product demonstration? (พวกเราต้องเอาอะไรไปที่งานสาธิตสินค้าบ้าง?)
A: The shop sells only fresh local produce. (ร้านค้าขายแค่ผลิตผลท้องถิ่นที่สดใหม่)
อย่างไรก็ตาม รูปแบบทั้งสามแบบนี้ไม่ได้เป็นคำตอบที่ผิดเสมอไปนะคะ แต่ถ้าหากเราฟังโจทย์ไม่ชัด สามารถนึกรูปแบบทั้งสามแบบนี้ช่วยเลือกคำตอบได้นะคะ
ตัวอย่างคำศัพท์โทอิคพาร์ท 2 และวิธีจำแบบไหนที่ได้ผลที่สุด?
เราได้รู้แนวข้อสอบโทอิคพาร์ท 2 กันแล้ว ต่อไปเรามาดูคำศัพท์ของประโยคคำถามแต่ละอย่าง ที่ออกในข้อสอบโทอิคบ่อยๆกันค่ะ
ประโยคคำถาม Who – คำศัพท์ที่บอกตำแหน่ง, แผนก
ข้อสอบโทอิคเป็นข้อสอบที่วัดทักษะการสื่อสารทางธุรกิจ ดังนั้นถ้าเราจำคำศัพท์ที่เกี่ยวกับตำแหน่งและชื่อแผนกได้ จะช่วยให้ทำข้อสอบพาร์ท 2 ที่ประโยคคำถามขึ้นต้นด้วย Who แน่นอนค่ะ
president | ประธาน |
vice president | รองประธาน |
board members | สมาชิกคณะกรรมการ |
management | คณะผู้บริหาร |
head of department | หัวหน้าแผนก |
supervisor | หัวหน้า, ผู้ดูแล |
accounting department | แผนกบัญชี |
finance department | แผนกการเงิน |
human resources | แผนกบุคคล |
marketing team | แผนกการตลาด |
customer service team | แผนกบริการลูกค้า |
maintenance | แผนกบำรุงซ่อมแซม |
ประโยคคำถาม When – คำศัพท์ที่บอกเวลา & ลำดับเวลา
คำศัพท์ที่ออกในข้อสอบโทอิคที่ขึ้นต้นด้วย When บ่อยๆ สามารถแบ่งได้ออกเป็น คำศัพท์ที่บอกเวลาอย่างเจาะจง และคำศัพท์ที่บอกลำดับเวลา
<คำศัพท์ที่บอกเวลาอย่างเจาะจง>
at noon | ตอนเที่ยง |
an hour ago | 1 ชั่วโมงก่อนหน้า |
last year | ปีที่แล้ว |
early next week | ต้นสัปดาห์หน้า |
by the end of the month | ถึงสิ้นเดือน |
no later than May 1 | ไม่เกิน 1 พฤหัสบดี |
<คำศัพท์ที่บอกลำดับเวลา>
recently | ล่าสุด |
soon | เร็วๆนี้ |
after/before | หลัง/ก่อน… |
sometime next week | ซักวันในสัปดาห์หน้า |
as soon as possible | เร็วสุดเท่าที่เป็นไปได้ |
ประโยคคำถาม Where – คำศัพท์ที่บอกสถานที่, ตำแหน่ง
ประโยคคำถาม Where ก็ต้องตอบเป็นสถานที่หรือตำแหน่งใช่ไหมล่ะคะ?
over there | ตรงนั้น |
around here | แถวๆนี้ |
on one’s desk | บนโต๊ะของ… |
across the street | ฝั่งตรงข้ามของถนน |
on the opposite side of | ฝั่งตรงข้ามของ… |
ประโยคคำถาม Why – คำศัพท์ที่บอกเหตุผล, จุดประสงค์
ประโยคคำถาม Why ต้องตอบด้วยเหตุผลหรือจุดประสงค์ โดยเรามักจะเจอคำศัพท์เหล่านี้ค่ะ
to discuss | ปรึกษาหารือ… |
to meet with | เจอกับ… |
for advice | สำหรับคำแนะนำ |
because of a traffic jam | เพราะการจราจรติดขัด |
due to heavy rain | เนื่องด้วยฝนตกหนัก |
ประโยคคำถาม How – คำศัพท์ที่บอกวิธีการ, ระยะเวลา, ความถี่บ่อย
ประโยคคำถาม How สามารถถามวิธีการ ความถี่ และระยะเวลาได้
<วิธีการ>
by e-mail | ทางอีเมล |
in person | ด้วยตัวเอง |
by cash/credit card | ด้วยเงินสด/บัตรเครดิต |
<ความถี่>
every morning | ทุกเช้า |
once a month | หนึ่งครั้งต่อเดือน |
biannually/annually | ทุกครึ่งปี/รายปี |
<ระยะเวลา>
for about an hour | ประมาณหนึ่งชั่วโมง |
over weeks | หลายสัปดาห์ |
ประโยคเสนอแนะ – การยอมรับข้อเสนอ vs การปฏิเสธข้อเสนอ
ประโยคเสนอแนะอย่าง “Why don’t we buy tickets in advance? (ทำไมพวกเราไม่ซื้อตั๋วล่วงหน้ากันไหม?)” สามารถตอบด้วยการยอมรับหรือปฏิเสธก็ได้ ถ้าเรารู้ว่าประโยคยอมรับและปฏิเสธมีอะไรบ้าง จะทำให้พอเดาคำตอบได้หลังจากได้ยินคำถามจบค่ะ
<ยอมรับข้อเสนอ>
Sure. | แน่นอน |
That sounds good. | ฟังดูดีเลย |
If it’s not too ~. | ถ้ามันไม่…เกินไป |
<ปฏิเสธข้อเสนอ>
No, thanks. | ไม่ ขอบคุณ |
I’m sorry, but | ขอโทษนะ แต่ |
I’m afraid I can’t. | เกรงว่าฉันจะทำไม่ได้… |
จำคำศัพท์ที่มีความเกี่ยวข้องพร้อมกัน เพื่อได้คะแนนโทอิคพาร์ท 1 เต็มกัน!
โทอิคพาร์ท 2 เป็นพาร์ทที่สำคัญกว่าพาร์ทอื่นๆ เพราะว่าต้องการทักษะการฟังที่แม่นยำมากค่ะ ซึ่งก้าวแรกที่จะช่วยให้เรามีทักษะการฟังที่แม่นยำก็คือ ต้องจำคำศัพท์นั่นเองค่ะ ให้เราจำว่าประโยคคำถามไหนจะเจอคำศัพท์อะไรบ้าง ทำแบบนี้จะช่วยให้ได้คะแนนโทอิคตามเป้าได้ภายในเวลาสั้นๆค่ะ
Santa เป็นโซลูชั่นที่ใช้เทคโนโลยี AI มาเพิ่มคะแนนโทอิคของทุกคนอย่างได้ผลจริง
ข้อสอบโทอิคอัพเดทล่าสุด วิดีโอเรียนฟรี รวมไปถึงวิธีการเรียนโทอิคที่เข้ากับคุณ ทั้งหมดนี้รวมครบในแอพ Santa เท่านั้น ลองเข้าไปดูได้เลย!