เป้าหมายสอบโทอิคของฉันคือ?
ที่จริงแล้วเป้าหมายของตัวเองในการสอบโทอิคมีความสำคัญพอๆกับการเรียนโทอิคเลยนะคะ เพราะว่าลักษณะการเรียนเตรียมสอบจะต่างกันไปตามเป้าหมายแต่ละอย่างนั่นเอง วันนี้เราจะมาดูถึงเหตุผลที่ต้องเรียนโทอิค แล้ววิธีการเรียนโทอิคแบบไหนที่จะดีที่สุดสำหรับแต่ละเป้าหมายสอบโทอิคค่ะ
ทำไมคนอื่นๆถึงสอบโทอิค?
ข้อสอบโทอิคเป็นวิธีวัดทักษะภาษาอังกฤษของแต่ละคน ซึ่งดีตรงที่ว่าไม่ได้ตัดสินว่าสอบผ่านหรือไม่ผ่าน เพียงแค่ประเมินออกมาเป็นคะแนนตามทักษะภาษาอังกฤษ เพราะฉะนั้นการเรียนโทอิคจึงไม่ใช่การเรียนเพื่อการสอบผ่านเหมือนข้อสอบอื่นค่ะ
แม้ว่ายิ่งได้คะแนนโทอิคเยอะจะยิ่งดีกับตัวเรา แต่ถ้าหากว่าเราเรียนเกินเป้าหมายสอบโทอิคของเรา อาจทำให้เสียเวลาไปโดยเปล่าๆได้ค่ะ ทางเราก็เลยได้รวบรวมเป้าหมายสอบโทอิคแต่ละอย่างมา อยากให้ทุกคนเช็คตัวเองว่าเป้าหมายสอบของเราคืออะไร แล้วทำตามวิธีเรียนของเป้าหมายนั้นๆนะคะ
หางานหรือสมัครฝึกงาน
เนื่องจากข้อสอบโทอิคออกแบบมาสำหรับใช้ในธุรกิจนานาชาติ ผู้คนส่วนมากสอบโทอิคเพื่อเอาไปหางานหรือสมัครฝึกงานค่ะ ข้อสอบโทอิคถูกสร้างขึ้นมาในปีค.ศ.1977 เพื่อวัดระดับการสื่อสารภาษาอังกฤษในบริษัทข้ามชาติ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคะแนนโทอิคจะไม่สำคัญสำหรับบริษัทในประเทศนะคะ แต่ละองค์กรอาจแตกต่างกันบ้าง แต่ส่วนมากต้องการได้ผู้สมัครงานที่รู้ภาษาอังกฤษ เราจึงเห็นตามประกาศรับสมัครงานของหลายๆบริษัทที่มีขอคะแนนโทอิคค่ะ
ETS ซึ่งเป็นองค์กรที่ดูแลโทอิคกล่าวว่า บริษัทข้ามชาติส่วนใหญ่ต้องการคะแนนโทอิคพาร์ทการฟัง&การอ่าน 785 คะแนนขึ้นไปค่ะ หากเรามีบริษัทที่จะสมัครไว้ในใจแล้ว ให้ไปหาข้อมูลหรือคุณสมบัติของผู้สมัครล่วงหน้าไว้ได้เลยค่ะ แต่ถ้าหากต้องการสมัครหลายๆที่ แนะนำให้เขียนคะแนนโทอิคไว้ในเรซูเม่ของตัวเอง ซึ่งเดี๋ยวจะอธิบายเพิ่มเติมในช่วงท้ายค่ะ
สมัครสถาบันการศึกษาระดับสูง (มหาวิทยาลัย/บัณฑิตวิทยาลัย)
ถึงแม้ส่วนมากระดับมหาวิทยาลัยต้องการคะแนนโทเฟิล (TOEFL) แต่ไม่ใช่ว่าจะไม่มีที่ที่ไม่ต้องการคะแนนโทอิคนะคะ มหาวิทยาลัยในยุโรปหลายๆแห่งมีรับทั้งผลคะแนนโทเฟิลและโทอิค ฉะนั้นการตัดสินว่าจะสอบโทเฟิลหรือโทอิคก็ขึ้นอยู่กับแต่ละคนค่ะ
ในข้อสอบโทเฟิลส่วนมากจะเป็นหัวข้อเกี่ยวกับการเรียนในมหาวิทยาลัยค่ะ อย่างที่บอกไปในช่วงแรกว่าข้อสอบโทอิคจะเกี่ยวกับการสื่อสารใช้ในธุรกิจ ฉะนั้นอาจจะได้เปรียบมากกว่าถ้าใช้คะแนนโทอิคสมัครบางคณะหรือบางโปรแกรมนะคะ ในทางกลับกัน ถ้าเลือกคณะสายภาษา สอบโทเฟิลจะได้เปรียบมากกว่าค่ะ และโดยทั่วไปตามมหาวิทยาลัยจะดูทักษะภาษาละเอียดกว่าบริษัทค่ะ อย่างน้อยทักษะภาษาอังกฤษต้องได้ระดับกลางขึ้นไป แนะนำให้ดูคะแนนขั้นต่ำที่เว็บไซต์ของมหาวิทยาลัย หรือสอบถามโดยตรงก่อน แล้วเรียนให้ได้ตามเป้าคะแนนที่ต้องการค่ะ
วัดทักษะภาษาอังกฤษ
ข้อสอบโทอิคใช้วัดทักษะภาษาอังกฤษได้ด้วย ฉะนั้นเป้าหมายอาจไม่ใช่การที่ได้คะแนนสูง แต่เป็นการเช็คระดับทักษะของตัวเอง หลังจากที่สอบโทอิค เราอาจจะได้แนวทางฝึกภาษาอังกฤษในอนาคตได้ด้วยนะคะ หากมีเป้าหมายสอบโทอิคคือการวัดทักษะภาษา เราก็ไม่จำเป็นที่ต้องทำคะแนนตามที่บริษัทหรือมหาวิทยาลัยกำหนดค่ะ
เพื่อที่จะวัดทักษะภาษาอังกฤษปัจจุบันได้แม่นยำที่สุด ควรเตรียมตัวล่วงหน้าให้น้อยที่สุดค่ะ แนะนำให้เรียนภาษาอังกฤษทั่วไปมากกว่าการเรียนติวโทอิคโดยเฉพาะ ผู้ที่ได้คะแนนโทอิคน้อยไม่ได้หมายความว่าไม่เก่งภาษาอังกฤษนะคะ เป็นไปได้ว่าไม่คุ้นกับข้อสอบโทอิคมากกว่า เพราะฉะนั้นการรู้ลักษณะและโครงสร้างของข้อสอบจะช่วยเราได้มาก ซึ่งการเข้าใจโครงสร้างก็ต้องอาศัยการฝึกฝนค่ะ ต้องเริ่มจากฝึกทำข้อสอบก่อน แก้โจทย์แต่ละประเภทแล้วค่อยๆทำความคุ้นเคย แต่ถ้าหากต้องการสอบโทอิคเพื่อวัดทักษะที่แท้จริง อันนี้ผู้สอบต้องเลือกด้วยตัวเองค่ะว่าจะศึกษาโครงสร้างข้อสอบโทอิคอย่างละเอียดหรือไม่
ประโยชน์ทางอาชีพ
การสอบโทอิคจะทำให้เราได้ประโยชน์ทางอาชีพด้วยนะคะ อย่างที่บอกไปก่อนหน้านี้ว่าให้เขียนคะแนนโทอิคไว้ในเรซูเม่ เพื่อเอาไว้ใช้สมัครงานหลายๆที่ เพราะฉะนั้นการได้คะแนนโทอิคสูงๆจะดีที่สุด คะแนนควรอยู่ระดับกลางถึงสูง เรซูเม่ถึงจะดูสวย หากรู้สึกว่าคะแนนโทอิคได้ไม่เยอะพอ แนะนำให้เขียนว่าทักษะภาษาอังกฤษอยู่ระดับกลางหรือสูง แทนการบอกคะแนนตรงๆค่ะ แต่ถ้าเขียนแบบนี้ อาจดูเหมือนว่าไม่ผ่านการรับรองตามมาตรฐานได้ คะแนนโทอิคมีอายุใช้งาน 2 ปีนะคะ หากเกิน 2 ปีไปแล้วแล้วต้องการผลคะแนน ก็ต้องสอบใหม่เลยค่ะ
สรุปได้ว่า:
✓ ดูจากเป้าหมายสอบโทอิค แล้วตัดสินใจว่าจะสอบโทอิค หรือสอบอย่างอื่น
✓ ตรวจสอบคะแนนขั้นต่ำที่มหาวิทยาลัยหรือองค์กรต้องการ
✓ หรืออาจสอบโทอิคเพื่อวัดทักษะของตัวเอง
✓ หากอยากได้คะแนนโทอิคสูงๆ การดูลักษณะและโครงสร้างของข้อสอบเป็นสิ่งสำคัญ
✓ คะแนนโทอิคมีอายุใช้งาน 2 ปีนับจากวันสอบ
Riiid TUTOR เป็นโซลูชั่นที่ใช้เทคโนโลยี AI มาเพิ่มคะแนนโทอิคของทุกคนอย่างได้ผลจริง
ข้อสอบโทอิคอัพเดทล่าสุด วิดีโอเรียนฟรี รวมไปถึงวิธีการเรียนโทอิคที่เข้ากับคุณ ทั้งหมดนี้รวมครบในแอพ Riiid TUTOR เท่านั้น ลองเข้าไปดูได้เลย!
